Posted by : HaLauYaMa Saturday, September 12, 2015



“อย่างนั้นไปก่อนนะพี่อาจังพี่ยูกะจัง”
“อื้อ บ๊ายบาย”
หลังจากที่เสร็จสิ้นกับการอัดรายการวิทยุที่ครั้งนี้ นจจิต้องมาเป็น “โคโดโมะนจจิ” หรือ “เด็กน้อยนจจิ”
“เหมือนเด็กสุดๆไปเลยนะนจจิ”
อาจังกล่าว
“เอ๋ ว่างั้นเหรอ” นจจิพูดพลางตักไอศกรีมเข้าปาก
“อื้อ ถึงจะดูน่ารำคาญทุกครั้งก็เถอะ”
“เอ๋ ไมว่างั้นล่ะ”
“แต่ว่านะ ก็น่ารักทุกครั้งเลยล่ะนะ”
“ยะ-อย่างนั้นเหรอ?” นจจิแก้เขินอายด้วยการรีบตักไอศกรีมเข้าปากไปอีกคำ ก่อนจะพูดประโยคบางอย่างที่อาจังไม่คิดว่าจะเป็นจริง
“แล้ว สมมติว่านะ…”
“หืม?”
“สมมติว่าถ้านจจิกลายเป็นเด็กจริงๆล่ะ? อาจังจะทำยังไง?”


ประโยคนั้นเป็นประโยคที่ไม่อยากจะเชื่อและไม่มีทางอยากจะเชื่อ




แต่มันกลับกลายว่ามันเป็นไปแล้ว….


เช้าวันใหม่ของหน้าร้อน เสียงของจักจัั่นเซงแซดดังเข้ามาเข้าห้อง แสงตกกระทบเข้าใบหน้าของอาจัง เนื่องจากเธอเป็นคนที่


“เช้าแล้วเหรอเนี่ย”


เอ๊ะ…


รู้สึกเหมือนว่ามีคนอยู่ข้างๆ หันไปกลับไม่เจอใคร แต่เจอก้อนอะไรอยู่ในผ้าห่มข้างๆเธอ เธอรวบรวมความกล้าก่อนที่จะคว้าผ้าห่มออกจากตรงนั้น เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในแล้วถึงกับตกใจ



“เด็กเหรอ?...”



มีเด็กตัวน้อยนอนอยู่ข้างๆเธออยู่เงียบๆอยู่คนหนึ่ง ถ้าดูผ่านๆแล้วก็เป็นเด็กประมาณอายุ7 8ขวบ


“ได้ไงน่ะ  เมื่อคืนเราก็ไม่ได้เที่ยวที่ไหนนี่นา เหล้าก็ไม่ได้กิน ไม่น่าไปฉกเด็กที่ไหนมาได้หรอก…”
ถ้าทำอย่างนั้นคุกเรียกหาเราแน่นอน ชาปองน้องสาวเราก็คงไม่มีทางเอาเด็กที่ไหนมาที่นี่ได้หรอก
แล้วเด็กคนนี้มาที่นี่ได้ไงน่ะ…


“อื้อ…”


ดูเหมือนการพูดกับตัวเองของอาจังทำให้เด็กคนนั้นเริ่มรู้สึกตัวแล้วตื่นขึ้นมา
“แม่...หิวจังเลยอ่ะ…”
พอเด็กคนนั้นหันหน้าไปมองอาจัง ก็ทำให้บรรยากาศเงียบลงไปทันที…


อาจังที่เห็นหน้าของเด็กคนนั้นชัดๆแล้วถึงกับอึ้งไปทันที



“นจจิ….”


“พี่เป็นใครอ้า!!!!”
เด็กคนนั้นตะโกนเสียงดังทันทีเมื่อรู้ตัวว่าเจอกันคนที่ไม่รู้จักอยู่ตรงหน้า
“เดี๋ยวก่อนสิ นจจิใจเย็น”
เด็กคนนั้นได้แต่ทำตากลมไม่รู้เรื่องอะไร เอียงหัวทำหน้าสงสัย
“พี่พูดถึงใครเหรอ? หนูน่ะชื่ออายาโนะนะ”
ได้ยังไงน่ะ?!
อาจังเข้าไปจับตัวเด็กที่หน้าเหมือนกับนจจิคนนั้นแล้วก็หันตัวเขาไปมา รวมถึงจ้องหน้าเขาใกล้ๆด้วย
“พะ...พี่จะทำอะไรน่ะ มันอึดอัดนะ…”
“นี่ หนูจ๊ะ”
“หืม?”
“ชื่ออะไรเหรอ?”
“อายาโนะ … โอโมโตตะ อายาโนะ อายุ  7  ขวบ”


ไม่จริงน่า!!!! ใจเย็นๆไว้ คนชื่อโอโมโตะ อายาโนะก็มีกันถมเถไป….แต่ก็เพื่อให้แน่ใจ…
อาจังรีบหยิบกระดาษกับปากกาแล้วรีบเขียนชื่อ โอโมโตะอายาโนะ ลงไปแล้วยื่นให้เด็กคนนั้นดู


“ชื่อหนูเขียนแบบนี้หรือเปล่าจ๊ะ?”
“อื้อ ชื่อนี้ล่ะ ลายมือพี่สวยจังเลย เทียบกับอายาโนะแล้วอายาโนะแย่กว่าจังเลยแฮะ”


เอาจริงดิ!!! หมายความว่าไงน่ะ!!! อาจังงรีบหยิบโทรศัพท์แล้วเลือกโทรไปหาเบอร์นจจิ แต่ทว่า…



ตื้อดื้อดือ



เสียงโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นหูมันกลับอยู่ใกล้ๆกับตัวเธอ


“นี่ๆ พี่คะ นี่ใช่โทรศัพท์พี่หรือเปล่า?”
สิ่งที่เด็กคนนั้นหยิบคือโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งที่กำลังดังงพร้อมกับแสดงหน้าจอที่เขียนว่า “อาจัง” อยู่
นั่นมันโทรศัพท์ของนจจิไม่ใช่เหรอ?! มาจากไหนกันล่ะ?!


ถึงจะยังไม่อยากจะเชื่อก็เถอะ แต่เด็กที่อยู่ตรงหน้านี่คือ “นจจิ” จริงๆสินะ…



“นี่ นจจิ...ไม่สิ อายาโนะจัง?”
“หือ อะไรเหรอ?”
“เอ่อ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเหรอ?”
เด็กน้อยนจจิยังคงทำตาโตไม่รู้เรื่องรู้ราว
“ก็ตื่นมาก็อยู่ที่นี่แล้วอ่ะ”
ช่วยได้เยอะเลย…
อาจังพยายามรวบรวมความคิด ก่อนที่จะนึกได้ว่าตัวเองยังอยู่ในชุดนอนอยู่เลยรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  ก่อนที่จะมาดูเด็กน้อยนจจิคนนี้ต่อ


“นี่ พี่….จะมองหน้าอายาโนะไปถึงไหนอ่ะ…”
นจจิทำหน้าอึดอัดเมื่อเห็นว่าอาจังจ้องหน้านจจิไม่วางตา
เสื้อผ้าที่นจจิใส่ตอนนี้เป็นชุดเสื้อเชิร์ตที่หลวมกว่าขนาดของตัวเขาเอง
จะว่าไป นั่นมันเสื้อที่นจจิใส่เมื่อวันก่อนนี่นา…
ถึงจะไม่อยากจะเชื่อ...แต่มันกลายเป็นอย่างนี้ไปจริงๆงั้นเหรอเนี่ย
ตอนนี้ยังไม่อยากจะบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ใครรู้รวมถึงคาชิยูกะด้วย เพราะถ้ารู้ขึ้นมากลัวหนักมากกว่าเดิม


โชคดีที่ว่าวันนี้เป็นวันหยุดของอาจัง ก็เลยไม่ต้องกังวลเรื่องงานแถมตอนนี้ที่บ้านนั้นก็ไม่มีใครแล้วเพราะพ่อกับแม่ก็ออกไปทำงานชาปองก็อยู่ในช่วงทัวร์ของวง9nineอยู่ ส่วนน้องชิเงะตอนนี้ก็ไปทัศฑศึกษาข้างนอก ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี(?)ล่ะนะ


“นี่พี่ค้า ร้อนจังเลยอ่ะ หิวแล้วด้วยอ่ะ”
นจจิน้อยว่าพลางเอาเสื้อหลวมๆที่ตัวเองใส่อยู่นั้นเช็ดหน้าตัวเอง


อืม ดูเหมือนว่าต้องหาชุดที่เข้ากับนจจิก่อนละกัน


“เอ้า นจจิจังจ๊ะ มาเปลี่ยนชุดกันเถอะ”
“เอ๋ ไม่เอาอ้า”
“ถ้าไม่เปลี่ยนชุดพี่จะไม่พาไปกินไอติมนะ”
พอนจจิได้ยินอย่างนั้นถึงกับตาลุกวาว
“ไอติมๆๆ! อายาโนะอยากกินไอติม!!! รีบเปลี่ยนเสื้อกันเถอะพี่!!”



หลังจากส่งชุดเสื้อผ้าไปให้นจจิใส่แล้วเรียบร้อย ปรากฎว่าชุดนั้นเข้ากับนจจิพอดี ถึงจะออกแนวผู้ชายไปก็เถอะ ก็แน่ล่ะนะ นี่มันชุดของน้องชายชิเงะคุงของเรานี่นา


“ไอติมอ่ะพี่!”
“นจจิ กินอะไรหรือยังจ๊ะ?”
“อ่ะ...จะว่าไปยังไม่ได้กินเลย หิวแล้วด้วยล่ะ”
“อย่างนั้น จะกินอะไรดีล่ะเดี๋ยวพี่ทำให้”
“จริงเหรอ?! อะไรก็ได้เหรอ?!”
นจจิตาลุกวาวอีกครั้ง
“อื้อ อะไรก็ได้จ้ะ”
“อย่างนั้น อายาโนะเอาข้าวไข่เจียว”
ข้าวไข่เจียวไม่เปลี่ยนเลยนะนจจิ
“อย่างนั้นไปนั่งดูทีวีตรงนั้นนะจ๊ะแล้วเดี๋ยวพี่มา”
“อื้อ!”
หลังจากนั้นก็เข้าไปนั่งโซฟาใกล้ๆกับทีวีแล้วเปิดทีวีดูอย่างว่าง่าย ว่าแล้วนจจิตอนเด็กก็น่ารักไม่เบาเลยนะเนี่ย



หลังจากที่กินข้าวเสร็จไปแล้วเรียบร้อย อาจังก็ได้แต่นั่งมองนจจิที่กำลังนอนเล่นเกมเพลย์อยู่ใกล้ๆ ถึงอาจังจะชอบเด็กมากก็เถอะ แต่พอเห็นว่าเพื่อนรักของเธอกลายมาเป็นเด็กแบบนี้ก็ไม่รู้จะรับมือยังไงเหมือนกัน แต่ว่านจจิก็ยังคงเป็นนจจิล่ะนะ ชอบกินข้าวไข่เจียว ชอบเล่นเกมอยู่ในบ้าน…

“นี่ นจจิจ๊ะ”
“หือ?” นจจิตอบรับโดยที่ไม่หันกลับไปมองอาจัง
“คือว่านะ ไปเดินเล่นกับพี่มั้ย?”
“หืม? เดินเล่นเหรอ?”
“อื้อ พี่มีที่เที่ยวสนุกๆหลายที่พาไปด้วยนะ”
“จริงเหรอ?!”
นจจิหันหน้ามาทันทีพร้อมกับสายตาที่สนอกสนใจนั่น
“อื้อ เลี้ยงไอติมด้วย”
“อื้อ ไปๆๆๆ อายาโนะไปด้วย”
พูดพร้อมกระโดดโลดเต้นดีใจอยู่หน้าอาจัง




แล้วก็มาถึงย่านถนนที่มีคนเดินพลุพล่านมากที่สุด อาจังคิดว่าบางทีพาไปอากิฮาบาระอาจจะดีกว่าสำหรับนจจิก็ได้ แต่ว่าเธอนั้นก็ไม่ชำนาญเรื่องอะไรพวกนั้นอยู่ดี เธอเลยพามาที่ที่เธอเดินบ่อยที่สุดอย่างที่นี่


“นี่พี่ๆๆ หมาตัวนี้เขาทำอะไรอ้าา”
“นจจิอย่าขึ้นไปปีนซิ!”
อาจังรีบอุ้มนจจิน้อยที่กำลังจะปีนเจ้ารูปปั้นหมาที่อยู่หน้าสถานีออกไปทันทีพร้อมรีบก้มหัวให้กับคนระแวกนั้นก่อนที่จะหนีออกจากบริเวณนั้นไป


คลาดสายตาแปปเดียวเล่นซนขนาดนี้เลยนะเนี่ย


“พี่ๆ” นจจิดึงชายเสื้อของอาจัง “นั่นพี่เหรอ?!” แล้วก็ชี้ไปที่ป้ายไวนิลใหญ่ใกล้ๆกับที่พวกเธอยืนอยู่
ป้ายนั้นเป็นป้ายโฆษณายาชูกำลังที่ในป้ายนั้นมีผู้หญิงสามสาวกำลังถือยาวิตามินนั่นอยู่

ใช่แล้ว สามสาวนั่นก็คือพวกเธอ Perfumeนั่นเอง


อาจังไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ยิ้มให้
“สวยจังเลย”
“จริงเหรอ?” อาจังลองถามไป
“อื้อ! แล้วก็คนผมสั้นๆนั่นน่ะ…”
อยู่ดีๆนจจิก็นิ่งเงียบไป
เป็นอะไรน่ะ?



“นี่พี่...”


“คนผมสั้นคนนั้นคืออายาโนะเหรอ?

เอ๊ะ?



“แล้วอายาโนะตอนนี้ล่ะเป็นใคร?”

หมายความว่ายังไง? นจจิพูดอย่างนั้นหมายความว่ายังไง? หมายความว่าตัวเองรู้….



“จะเป็นไปได้ยังไงกันเนอะ! ก็อายาโนะก็อยู่ตรงนี้นี่นา ไม่มีใครเหมือนกับอายาโนะคนนี้ได้หรอก”
เด็กน้อยนจจิพูดด้วยเสียงอันร่าเริง อาจังที่ได้ยินอย่างนั้นทำเอาต้องหายใจเฮือกใหญ่ ถึงตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องกังวลใจถึงขนาดนั้นด้วย


“ไปกันเถอะพี่สาว อายาโนะหิวแล้ว”
“เอ๊ะ หิวแล้วเหรอ? พึ่งกินไปเองไม่ใช่เหรอ?”
“แต่ว่ามันหิวอ่ะ”
“ช่วยไม่ได้นี่นะ…”


“เย้ๆ แพนเค้ก!!!”
นจจิทำเสียงดีใจเมื่อพนักงานเอาแพนเค้กมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ


สุดท้ายก็มาที่ร้านแพนเค้กจนได้...อาจังคิดในใจพลางมองดูนจจิกินแพนเค้กอย่างตั้งใจ


จะว่าไปแล้วก็ทำให้นึกถึงตอนนั้นเลยแฮะ…



“ว้าวววว แพนเค้กน่ากินจังเลย”
นจจิร้องว้าวเมื่อแพนเค้กได้มาอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ใช่มั้ยล่า ร้านนี้น่ะฉันชอบมากเลยนะ”
“ว่าแล้วอาจังนี่ชอบแพนเค้กจริงๆด้วยสินะ”
“อื้อ ชอบมากเลย”
“น่าเสียดายวันนี้ยูกะจังไม่มาแฮะ”
“นั่นสิน้า ก็ต้องพาลิยงไปหาหมอนี่นา”
อาจังพูดก่อนจะตักแพนเค้กเข้าปากไปคำนึง ขณะที่กำลังกินอยู่นจจิจ้องอาจังไม่วางตา ทำเอาเธอรู้สึกทำตัวไม่ถูก อยู่ดีๆมาจ้องเธออย่างนั้น
“มะ...มีอะไรเหรอ อยู่ดีๆก็จ้องมาเนี่ย ฉันเกรงนะเว้ย”
“เห~...ว่าแล้วคิดไม่ผิดจริงด้วยแฮะ…”
คิด? คิดอะไรน่ะ?
“อะไรเหรอ?”
“อื้ม! ว่าแล้วฉันคิดไม่ผิดจริงๆด้วยล่ะนะ”
แล้วคิดอะไรล่ะ?!


แล้วจากนั้นนจจิก็ลงมือกินแพนเค้กของเธออย่างตั้งใจ อาจังได้แต่สงสัยว่าประโยคที่นจจิพูดนั้นมันหมายความว่ายังไง แต่พอดูนจจิตั้งหน้าตั้งตากินแพนเค้กที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ถึงจะมีความสงสัยก็เถอะ แต่ว่า แค่ได้อยู่กับนจจิเธอ็ดีใจละ


“นี่ พี่…”


“พี่!!!”
อาจังหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงเรียกของคนตรงหน้าหรือก็คือนจจิตัวน้อย


“มีอะไรเหรอจ๊ะ?”
“ไม่กินแพนเค้กเหรอ เดี๋ยวมันเย็นหมดน้า”
“นั่นสินะ ขอโทษทีนะจ๊ะ”
อาจังตักแพนเค้กเข้าปากไปคำนึง ระหว่างที่กินอยู่นจจิตัวน้อยก็ได้แต่นั่งจ้องหน้าอาจังไม่วางตา


ทำไมรู้สึกเหมือนจะเคยเห็นเหตุการณ์นี้นะ…


แต่พอจ้องตาตอบอีกฝ่ายกลับหันหน้าหนีซะงั้น นจจิก็ยังคงเป็นนจจิล่ะนะไม่ว่าจะเด็กหรือโต


“มีอะไรเหรอ? หน้าพี่มีอะไรติดงั้นเหรอ?”
นจจิน้อยสะบัดหน้าอย่างรวดเร็ว
อย่างนั้นมีอะไรล่ะ?
“ที่จริงน่ะนะ…”
“อะไรเหรอ?”
“นจจิน่ะ…”
หืม? นจจิ?
“นจจิน่ะคิดไว้แล้วล่ะ…”




“คิดไว้แล้วว่านจจิน่ะได้มาชอบพี่อาจังนี่ดีแล้วล่ะ!!!”

“คิดไม่ผิดจริงๆที่นจจิได้มาชอบพี่อาจัง!!”


เอ๊ะ…

“อื้อ นจจิคิดไม่ผิดจริงๆ”
“ทำไม จู่ๆถึงเรียกชื่อตัวเองว่านจจิล่ะ…”
“ก็ชื่อนี้พี่อาจังเป็นคนเรียกไม่ใช่เหรอ?!”
จากนั้นนจจิก็แสดงรอยยิ้มบนใบหน้าอันแสนใสซื่อนั้น


“คิดไม่ผิดจริงๆนะ!”


ระหว่างที่กำลังจะกลับ นจจิที่กำลังเดินจูงมือกับอาจังนั้นเห็นอะไรบางอย่างเลยหยุดสังเกตมอง ทำให้อาจังสงสัยว่ามองอะไรอยู่ เลยเข้าไปดูด้วย
“อะไรเหรอนจจิ?”
แล้วนจจิก็ชี้ไปตู้กระจก
ข้างในเป็นกำไลสีเงินเรียบๆซึ่งเมื่อต้องไฟแล้วมันเป็นประกายสวยงาม


อยากได้งั้นเหรอ?


“มาใส่ด้วยกันเถอะพี่อาจัง!”


เอ๊ะ?!


“ระหว่างนจจิกับพี่อาจังไง!”


หมายความว่าไงน่ะ?


“ไม่ได้เหรอ…”
เสียงนจจิเริ่มอ่อนลง และตาของนจจิเริ่มมีน้ำตาคลอ อาจังหันไปมองกำไลสีเงินอันนั้น ดูจากราคาแล้วไม่น่าจะแพงมากหรอก จะว่าไปมันก็สวยเหมือนกัน…
ไม่นาน อาจังก็เข้าไปในร้านนั้นทันที แล้วก็ออกมาพร้อมกับถุงใบเล็กๆ เธอหยิบของข้างในออกมา มันเป็นกำไลสีเงินที่นจจิจ้องมองอันนั้น แล้วเธอก็เอากำไลอันนั้นวงนึงยื่นให้กับนจจิ มือเล็กๆคู่นั้นค่อบๆรับกำไลวงนั้นมา ก่อนที่จะกุมมันไว้เบาๆ


“พี่อาจัง…”
“รักษาไว้ให้ดีนะคะ พี่ถือว่านี่เป็นของขวัญสำหรับพี่นะ สำหรับที่พวกเราได้มาเที่ยวกันวันนี้…”
“แล้ว...พี่อาจังจะใส่ด้วยหรือเปล่า…”
อาจังหยิบกำไลอีกวงในถุงออกมา แล้วก็ใส่เข้าไปที่แขนข้างขวาของเธอ
“แน่นอน”
อาจังยื่นข้อมือให้ดู นจจิเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มออกมา
“อื้อ ใส่ด้วยกันนะ! นจจิจะใส่ไว้ตลอดเลยนะ เป็นของที่สำคัญที่สุดของนจจิเลย!!”
“อื้อ”
“สัญญากับนจจินะ!”
นจจิยื่นนิ้วก้อยออกมา อาจังทำหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะยิ้มให้แล้วยื่นนิ้วก้อยของเธอไปเกี่ยวก้อยกับมือเล็กๆข้างนั้นของนจจิ


“ขอบคุณนะ…”


“ว่าแล้วคิดไม่ผิดจริงๆนะ….”



ลืมตาขึ้นมาจากห้วงราตรีแล้วพบกับรุ่งอรุณของวันใหม่ หันไปมองข้างๆเตียงของเธอ


เอ๊ะ…


ไม่มี…


เด็กคนนั้นไม่อยู่แล้ว…


มองไปรอบๆไม่ว่าจะเป็นทั้งเสื้อผ้าหรือว่าของที่เคยอยู่ที่นี่ของเด็กคนนั้นหายไปหมดแล้ว…

นี่เราฝันไปสินะ

ระหว่างที่กำลังนั่งรออัดรายการPerfume LOCKS! อยู่ในสตูดิโอ
“เป็นอะไรไปเหรออาจัง? ทำหน้าแปลกๆนะ”
คาชิยูกะเข้าไปถามเมื่อเธอเห็นว่าอาจังทำหน้าตาเหมือนเธอรู้สึกเครียด
“อ๋อ เปล่าหรอก … พอดีฝันแปลกๆน่ะ…”
“ฝันเหรอ? ฝันว่าอะไรเหรอ?”
“อืม...จำไม่ค่อยได้หรอก...”
ไม่ทันที่จะบอกต่อคาชิยูกะด็ถูกสต๊าฟเรียกไปคุย เลยต้องขอตัวออกไปก่อน ตอนนี้ก็เลยเหลือแค่อาจังกับนจจิที่วันนี้แต่งตัวสีดำทั้งตัวแต่ว่าเป็นเอกลักศณ์ ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งเล่นเกมมือถือของตัวเองอยู่
สถานการณ์ดูเงียบอยู่พักหนึ่ง


“นี่” เสียงของนจจิดังขึ้น
“ว่าไงเหรอ?”
“ที่อาจังฝันนี่คืออะไรเหรอ?”
“ฝันว่า...เจอเด็กอยู่ในห้องนอนของฉัน แล้วจากนั้นพวกเราก็ไปเที่ยวด้วยกันน่ะ”
“หืมมม เป็นความฝันที่แปลกไปเลยเนอะ”
ทั้งคู่หัวเราะด้วยกันเล็กน้อยก่อนที่จะแยกต่างคนต่างทำกิจกรรมส่วนตัวของตัวเอง

“ว่าแล้วคิดไม่ผิดจริงๆด้วยนะพี่อาจัง …”

เอ๊ะ?!
อาจังหันไปหานจจิทันทีเมื่อได้ยินเสียง


“มีอะไรเหรออาจัง?” นจจิทำหน้าสงสัย
“เมื่อกี้นจจิพูดอะไรเหรอ?”
“เอ๊ะ ไม่มีอะไรนี่นา หูฝาดไปหรือเปล่าอาจัง?”
“งั้นเหรอ…”


และแล้วอาจังก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างแวววาวอยู่บนข้อมือของนจจิ … มันเป็นกำไลข้อมือสีเงินเรียบๆแต่เมื่อตอนแสงนั้นมันส่องแสงประกายสวยงามออกมา เมื่อเอากำไลที่ตัวเองใส่อยู่บนข้อมือขวาขึ้นมาดูแล้ว พบว่าเหมือนกันอย่างเห็นได้ชัด


“นจจิ...กำไลนั่น…”
“หืม ทำไมเหรอ?” นจจิยกแขนขึ้นมาดู
“ได้มาจากไหนเหรอ?”
หลังจากได้ยินอย่างนั้นนจจิก็ยิ้มขึ้นมาก่อนที่จะพูดว่า


“ก็ได้มาจากพี่อาจังไง!!!”









-----------


เขียนมั่วๆอีกแล้วแฮะ จู่ๆในหัวมันก็นึกแบบว่า "ถ้าอาจังเจอเด็กน้อยนจจิ" จะทำไงนี่สิ 5555+
แล้วสรุปแล้วตอนจบนี่มันยังไงกันนะ?

เอาเถอะ เนื้อเรื่องมันก็อ่านไม่รู้เรื่องอยู่ละ
...
เอาจริงๆสองคนนี้เขาน่ารักนะเว้ย!!!







- Copyright © 2013 HaLauYaMa - Shiroi - Powered by Blogger - Designed by Johanes Djogan -