Archive for August 2013

เอาล่ะ!!! (หลังจากไม่ได้อัพมาหลายวัน) วันนี้ตื่นแต่เช้ามาลงมาที่ห้องนั่งเล่มแห่งบ้านฟุรุทานิ พร้อมกับพูดทักทายคุณแม่และคุณยายของยูซังว่า "โอฮาโยโกไซมัส (อรุณสวัสดิ์ค่ะ)" อา แล้ว เขาก็เอาอาหารเช้ามาให้ นั่นคือ แซนวิชไส้ผักและไข่ต้ม...ไอ้เราล่ะเขี่ยทิ้งกินแต่ไข่ต้ม...ผักไรล่ะไม่เอา!!!!!! และรีบจัดการเอาไปทิ้งไม่ให้แม่ยูซังเห็น แต่เพื่อนของแม่ยูซังเห็นแล้วแต่็ไม่ได้พูดอะไร (อย่าบอกเชียวนะเมิง!!) เช้านี้แม่ยูซังไม่เห็น รอดไป
จัดการอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านไปยังสถานี Izumi Fuchu สถานีใกล้บ้านที่สุดของบ้านฟุรุทานิล่ะ
ก็นั่งจากิซูมิฟูจูไปยังสถานที่นึงนี่ล่ะ (ตอนไปนี่เราไม่รู้เลยล่ะ)



คนน้อยจริงๆแฮะ

พอรถไฟมาก็จัดการเข้าไปซะ เพราะว่าที่อิซูมิมันคนอยู่น้อยน่ะ (ประมาณเป็นเมืองเล็กๆน่ารักๆที่นึงน่ะ) รถไฟคนเลยค่อนข้างน้อย


ก็ถือว่าไม่มากน่ะนะ

หลังจากนั่ง(ยืนดีกว่า)ไปเรื่อยๆ ก็ต้องลงมาที่สถานีนึงชื่อสถานี Shin Imamiya ไอ้เราก็ "เอ๊ะ จะไปไหนอีกล่ะ?"


จากนั้นก็ออกจากสถานีออกไปเดินไปซักที่ซึ่งยูซูเกะพาไปคือ ตลาดแห่งนึง เอ๊ะ! พามาไมล่ะ ไอ้เราก็ไม่รู้แฮะก็เดินผ่านๆไป อื้อ ตลาดเขาก็ดูเหมือนบ้านๆเรานี่นะ
ก็เดินต่อๆไปนะ ตอนเดินเข้าเนี่ยจากหน้าจอใหญ่ๆฉายพวกPVตัวอย่างแบบอันดับอะไรไรงี้ มีSKE AKB ด้วย แต่ไอ้เราก็ เห้ยจะถ่ายดีมั้ย เออพูดตั้งใจจะถ่ายมันดันไปจออื่นซะละ เซ็งชะมัด!



เดินปเรื่อยๆจู่ ยูซูเกะบอกว่า "เดินผิดทาง" อ้าว! แล้วจะไปไหนเนี่ย - _- ไอ้ตอนระหว่างเดินก็เจอกับสิ่งนึง หึ้ย!!! ต้องถ่ายให้ได้!!!! โฆษณาของอัตจังที่ถ่ายกับยามะพีเนี่ย!!!


โอ๊ย!!! มีให้เห็นก็สุดยอดจริงๆ!!! บนทางพื้นนี่หายากจริงๆนะ 
(ส่วนใหญ่โฆษณามักจะชอบโฆษณากันใต้ดิน)

คราวนี้เดินไปที่EBISU BASHI-SUJI หรือตลาดที่เราเดินไปเมื่อกี้นี่ล่ะ (แบบว่าโซนมันใหญ่น่ะ) เดินไปเรื่อยๆข้างทางมีTSUTAYAด้วย โอยยยย อยากเข้า อยากเข้าปซื้อซีดีเอเคบีอ่ะ!! แต่ก็ไม่ได้เข้าไป แต่ว่าไปยืนอยู่หน้าร้าน ไปเจอคนๆนึง เขาเป็นเพื่อนของยูซูเกะซังที่ชื่อว่า มิตซูกิซัง เป็นผู้หญิงน่ะนะแล้วก็เด็กกว่ายูซูเกะซังด้วย ยี่สิบกว่านี่ล่ะ (น่ารักทีเดียวล่ะ)
หลังจากที่รู้สึกมิตซูกิเพื่อนของยูซูเกะแล้ว ก็มาเอะใจรอบๆ เอ๊ะ ปูยักษ์? เอ๊ะ นี่อย่าบอกนะว่า ใช่Dotonburi ไอ้ป๊อกกี้นั่นสินะ? ก็ว่าถามพี่ตอนเดินตลาดว่าจะพาไปไหน พี่บอกว่า "จะพาไปที่ๆไอ้ป๊อกกี้ไรนั่นน่ะ" อา งี้นี่เอง...


EBISU BASHI-SUJI ที่เดินทะลุเข้าสู่DOUTONBURIไป


นี่ล่ะไอ้ปูยักษ์ที่ว่า 
(นึกว่าจะใหญ่กว่าที่คิดซะอีก แต่ก็ถือว่าใหญ่น่ะนะ)


รอบๆTSUTAYAที่กำลังยืนอยู่ (ข้างๆปูยักษ์นั่นล่ะ)



ปามิวน่ารักดีเหมือนกันนา~

แล้วไหนล่ะไอ้ป้ายป๊อกกี้ยักษ์ไรนั่นล่ะ อา~ก็เดินไปเรื่อยๆ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่ล่ะ ลองเดินเข้าไปที่สะพานดู หันไปด้านซ้าย นั่น!!!!! เจอแล้ว!!!!!


หันหลังสิโว๊ย!!!


นี่ไงเจอแล้ว!!!!!
ใหญ่บักเอ้กจริงๆด้วย!!!!

แล้วจากนั้นยูซูเกะกับมิตซูกิซังก็พามาที่ป้ายปูยักษ์อีกรอบ แต่เนื่องจากว่าถ่ายรูปปูยักษ์ไปแล้วตอนอยู่ที่หน้าTSUTAYA ก็เลยไม่ถ่ายอีก พอดูพวกปูยักษ์เสร็จก็เดินไปเรื่อยๆ แต่มาสังเกตตรงนี้!!! ข้างๆTSUTAYAนี่ล่ะ ป้ายATTACK ON TITAN แล้วห้อยป้ายว่าน้ำ (ป้ายนี้ถ้าห้อยแสดงว่าร้านนี้ขายน้ำแข็งใส)...ยู๊ตไททันขายน้ำแข็งใส วอทเดอะ!!!




น่ากินดีนะ แต่ว่าก็ไม่กล้าขอพี่อยู่ดี ถึงจะขอก็เกรงใจยูซูเกะกับมิตซูกิ - -*) ก็เดินต่อไปๆ
หลังจากนั้นก็มาเจอไอ้ตัวนี้ฮะ ไอ้หุ่นตีกลองKuidaore ยูซูเกะบอกว่าไอ้ตัวนี้เหมือนจะโยนลงแม่น้ำด้วย ไม่รู้จริงหรือเปล่านะ ไม่รู้เหมือนกัน (แต่คงไม่หรอกมั้ง)


หลังจากเดินผ่านไอ้หุุ่นตีกลองไปด้อีกซักพัก พี่ก็เรียกมาแล้วบอกว่า นี่เป็นเทพเจ้าของDontonburiล่ะ (พี่บอกได้ไงน่ะเหรอ แน่นอนว่ายูซูเกะเป็นคนบอก)


เดินไปอีกนิดเจอป้ายNMBจ้า ฮ่าๆๆๆ ที่โปรโมตงานจังเกนด้วยมั้ง เคยอ่านเรื่องนี้ผ่านๆน่ะ



เดินไปอีกเจอตู้กดน้ำมีAKBอยู่ ก็ถ่ายซะ (เจอAKBนี่ถ่ายหมดจริงๆนะ)


หลังจากนั้นยูซูเกะก็พามาซื้อทาโกยากิจ้า! เย้ได้กินทาโกะยากิต้นตำรับถึงประเทศญี่ปุ่นละ
ปลาหมึกเขาสุดยอดมาก!!! อร่อยเว่อร์จ้า!!!!




จากนั้นยูซูเกะก็พาเราไปนั่งริมแม่น่ำเพื่อมาพักกินทาโกยากินี่ให้เสร็จ 


ก็มานั่งฝั่งตรงข้ามไอ้ร้านนี้นี่ล่ะ เห็นว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ด้วยนี่นะ แต่ว่าตอนเช้าๆดันไม่เปิดซะงั้นน่ะ สงสัยต้องตอนเย็นๆมืดๆสินะถึงจะเปิดเนี่ย
ก็สังเกตว่า มีทัวร์เรือด้วย ใครอยากนั่งเรือแล้วอยู่เห็นสถานที่สำคัญๆรอบDontonburiก็นั่งเรือฟังไกด์บ่นได้เลยไรงี้ (เราโบกมือให้เรือด้วยล่ะ ฮ๋าๆๆๆ)
นั่งไปเรื่อยๆก็นั่งเถียงกับพี่ว่า เรายังไม่ได้ไปปราสาทโอซาก้าเลยนะ ไอ้พี่ก็บอกยูซูเกะเองสิ เราก็ไม่มีทางหรอก นั่งเถียงกันอย่างนี้จนสุดท้ายก้ไม่ได้บอก ส่วนยูซูเกะกับมิตซูเกะก็นั่งคุยน่าจะประมาณว่า ไปกินไรดีวะ? แล้วจากนี้ไปไหนเนี่ย? ประมาณนั้น
จนพอตกลงกันได้(ระหว่างยูซูเกะกับมิตซูกิ) ก็ออกเดินกันอีกครั้ง จะไปไหนเหรอ? ไอ้เราก้ไม่รู้ มีหน้าที่เดินตามเขาฮะ
ระหว่างเดินก็เจออีกแล้วฮะ ป้ายปาจิงโกะAKB Surprise หน้าร้านปาจิงโกะ 5555+


น่าหยิบกลับบ้านจริงไรจริง ฮ๋าๆๆ

แล้วก็เจอตู้กดน้ำอีกแล้ว คราวนี้รู้สึกจะติดเยอะขึ้นนิดนึงนะ (ถ่ายระหว่างที่พวกพี่กำลังอยู่ในร้านDuty Free)


ลุงหลบสิ!!!


ตู้นี้ติดเยอะจริงไรจริง


ข้างในก็มี โอ้ว!!!

เดินไปเรื่อยๆ ไอ้เราก็หิว อ้า ยูซูเกะก็พามากินร้านอุด้งฮะ!!! ร้านนี้!


ไอ้เราไม่รู้จะกินอะไร + อ่านไม่ออกด้วยบางคำ ไอ้เราก็สั่งตามยูซูเกะ สรุปคือ กินเมนูนี้แม่งทุกคนเลย 5555+


ยูซูเกะถามว่าเคยกินอะไรแบบนี้ป่ะ ไอ้เราก็บอกว่าครั้งนึง อุด้งเย็นดีๆนี่ล่ะ อร่อยใช้ได้เลย! (ญี่ปุ่นนี่กินอะไรอร่อยไปหมดเลยหรือเปล่านะ?)
หลังจากที่กินเสร็จไรเสร็จละก็ออกเดิน ไอ้เราก็งง จะเดินไปไหนวะ ปราสาทโอซาก้าเรอะ มันไม่น่าจะเป็นงี้นะเห้ย เดินไปนานเว่อร์ๆๆๆ ข้ามถนนไปไม่รู้กี่รอบ เออ เจอทาคุยะด้วย


เดินเป็นกิโล จนรู้สึกว่า เออวันนี้มาเดินเพื่อสุขภาพสินะ ไม่ต้องไปเดินหรอกเดินวิ่งการกุศลของโรงเรียนไรเนี่ย (เมื่อวันนั้นโรงเรียนจัดงานเดินวิ่งการกุศล40ปีโรงเรียน)
และเมื่อพอถามพี่(ตอนที่เดินทัน)ว่าจะไปไหน? ไอ้พี่ก็บอกว่า ไปศาลากลางโอซาก้า (จากที่อ่านในวันแรก ตามที่บอกว่าศาลากลางโอซาก้าที่อ.อิเคดะถูกขังแล้วยุวชนชาย-หญิงนับหมื่นไปอยู่หน้าศาลากลาง บลาๆๆ นั่นน่ะ)
ทำไมไม่นั่งรถไฟฟ้าไปไรไปวะ? โคตรเหนื่อยสุดยอด ถึงจะบอกว่าเหนื่อยแต่ก็ไม่ได้บอกกับยูซูเกะเขา เกรงใจสุดๆ บอกเขาว่าไม่ต้องไปแล้ว เดี๋ยวเขาจะฆ่าเอาน่ะสิ! ทำใจเดินต่อไปฮะ

เดินต่อไปเรื่อยๆ นั่นไงเห็นเค้าๆบ้างแล้ว!!!


นั่นไงเริ่มใหญ่ขึ้นแล้ว!!!


ในที่สุดก็ถึง!!! ศาลากลางโอซาก้า!! ตัวเองอย่ด้านหน้า ใหญ่ฉิบหาย!!!!! นี่เราะอดีตคุก!!!!
แต่ตอนนี้เป็นอะไรเราไม่รู้ คงศาลากลางนั่นล่ะ


ศาลากลางมันอิฐสีแดงดึงดูดมากจน อนุสาวรีย์ใครก็ไม่รู้ตรงฝั่งตรงข้ามศาลากลางแม่งกลายเป็นที่จอดรถจักรยานแทน สีแม่งกลมกลืนกับต้นไม้สุดๆอ่ะ (เสียดายลืมถ่าย 55555+)
หลังจากนั้นก็เดินต่ออีก เอ็งจะไปไหนต่อเนี่ย!!!! (คิดในใจนะ) เหมือนจะไปหาไรกินนะ เพราะตอนนั้นก็เย็นแล้วด้วย
เดินไปก็เจอโฆษณาวิสกี้ของคันโนะ มิโฮะอยู่ตรงป้ายรถเมล์ น่ารักสุดยอดค่า!!!

เดินไปอีกเจอที่อะไรไม่รู้ด้านหน้าเขียนว่าKING RECORD  ตรงป้ายก็เขียนว่าKING RECORD อะไรซักอย่าง เราก็ไม่รู้ แต่ก็มีการวางแผ่นซีดีที่อยู่ในเครือKING RECORDไว้นะ (หาในเว็บแล้วก็หาไม่เจอว่าตกลงนี่คืออะไร)


แล้วจากนั้นเดินไปเรื่อยๆอีก ฝั่งตรงข้ามมีร้านปาจิงโกะพร้อมป้ายAKB Surpriseอีกแล้วท่าน! ใช้สกิลการซูมของกล้องแคนน่อน ซูมเข้าไป!
ชัดเว่อร์จ้า!!!


หลังจากนั้นก็เหมือนจะขึ้นไปห้างไปหาของกิน แต่ละที่ในห้างก็ท่าจะแพงเพราะยูซูเกะดูเมนูแปปนึงแล้วก็กลับเลย สุดท้ายก็มาจบอยู่ที่ร้านMcDonaldฮะ 555555+ สั่งแค่โค้กแก้วเล็กแก้วนึง แก้วเล็กเขาขนาดนี้เลยเรอะ!!!! น่ารักดีเนอะ เวลาดูเมนูแม็คเขามีให้โหลดทางแอปนะเอ้อ 


อ้อ แล้วก็ มิตซูกิเขาก็ให้ของฝากมาด้วย มิตซูกิบอกว่าไปเที่ยวโอกินาว่ามาล่ะ อื้อ ก็เลยเอามาให้ 





จากนั้นก็แบบเดินไปซักนิดนึง เดินไปมีแต่ของกิน ไอ้เห้!!! ยั่วกูจัง!!!! สุดท้ายก็ไม่มีอะไรแล้ว(มีแต่ของกิน ไม่เอาหรอก) แล้วจากนั้นอยู่ๆก็ยืนรออะไรไม่รู้อยู่นานมาก ยืนที่ไหนไม่ยืนยืนอยู่หน้าร้านขนมปัง ไอ้เห้!!! ฆ่ากู!!!! ยูซูเกะแกก็กำลังโทรศัพท์อยู่ ไอ้พี่กับมิตซูกิก็กำลังคุยกัน อ้า จู่ๆพี่ก็บอกมิตซูเกะว่า ไอ้เราอ่ะชอบ อามามิ ยูกิ กับ AKB48ด้วย มิตซูกิก็ อ้า อามามิ ยูกิเหรอ? สวยแล้วก็เท่ดีเนอะ แล้วก็ถามอีกว่า AKB48 ชอบใครเหรอ? ก็ตอบไปว่า โอชิมะ ยูโกะ มิตซูกิก็บอกว่า อ้า ที่สองเลือกตั้งน่ะนะ แล้วอัตจังล่ะ ไอ้เราก็ อื้อๆ ชอบเหมือนกัน ดับเบิ้ลเซนเตอร์น่ะ แล้วมิตซูกิก็พูดไรไม่รู้เกี่ยวกับเซนเตอร์ๆ ไอ้เราก็ อื้อๆ แล้วก็จบบทสนทนาระหว่างเราแค่นี้ ฮ๋าๆๆๆๆ
หลังจากยูซูเกะคุยโทรศัพท์เสร็จไรเสร็จตกลงกันว่าจะกลับบ้านกันล่ะ เออ ก็กลับบ้าน ไปที่สถานีโอซาก้า
ใหญ่มากเลยจ้า!!!



(ผู้หญิงที่ด้านหลังมีฮู้ตหิ้วกระเป๋าสีส้มนั่นล่ะมิตซูกิซังล่ะ อิอิ น่ารักมากเลยล่ะ)



ระหว่างที่รอรถนี่ รถไฟขบวนนี้(ไม่ใช่ที่เราขึ้น) มีป้ายรณรงค์ให้อ่านหนังสือของAKBด้วย ไอ้เราเห็นแค่ไกลๆ แต่เราก็อยากถ่ายเลยช้แคนน่อนซูมเต็มพิกัด (ซูมออกมาเลนส์ยะกะบ่องข้าวหลามอันเล็กๆ) ถ่ายซะ แต่มันไม่ชัดซะงั้น เอาเถอะทำดีที่สุดแล้วแคนน่อนเอ้ย
ดูแล้วก็เป็นพารูรุแหละนะเอาจริงๆ


หลังจากนั้นเมื่อสถานีรถไฟมาก็เข้าไปนั่ง(ยืนดีกว่า) แล้วก็ยืนหลับไปจนถึงสถานีIsumi-Fuchu สถานีใกล้บ้านฟุรุทานิ ลงมาก็มีรถมารับขับโดยพ่อยูซัง กลับบ้านมาเจอแม่ยูซังที่กำลังทำข้าวปั้นอยู่ กับยายยูซังนั่งแช่อยู่บนโซฟา เขาพูดกับเราว่า "ยินดีต้อนรับ" ไอ้เราก็ "กลับมาแล้วค่ะ" อ้า อยากพูดคำนี้มานานแล้วจริงๆ
ข้าวเย็นวันนี้คือข้าวปั้นของแม่ยูซัง + เครื่องเคียงคือพวกผัก + ซุปมิโสะ



ไอ้เราล่ะไม่กินเลยผัก กินแต่ซุปมิโสะกับข้าวปั้น แม่ยูซังถามว่า ไมไม่กินผักล่ะ เราเลยตอบไปว่า "เกลียดผัก" อา กินมั่งซะนะ หลังจากนั้น จู่ๆแม่ยุซังก็เอาของหวานมาให้ เป็นอะไรไม่รู้พี่บอกลอยแก้ว (มันคือไรวะ?) ที่เป็นส้มพร้อมเยลลี่ ไอ้เราก็ ด้วยความที่ว่าส่วนตัวไม่ชอบผลไม้และไม่คิดจะกินมันด้วย ก็ *แดกจุด* พี่ก็บอกว่า เอองั้นก็บอกแม่ยูซังไปว่า อิ้มแล้วเลยไม่กิน ก็ตัดสินใจบอกไปว่า เออ ขอบคุณมาก แต่ว่า มัน (พร้อมลูบท้อง" แม่ยูซังก็ "โอเคๆ" แล้วก็กลับไปนั่ง ... รู้สึกผิดเล็กน้อยถึงขั้นสุดจริงๆจ่ะ
แล้วหลังจากนั้นก็ดูทีวี อ้า ในห้องก็ดูเหมือนไม่มีใครแล้วด้วย อา ดูทีวีคนเดียว ก็ดีนะ แต่ไม่กล้าเปลี่ยนช่องเพราะว่า รีโมตใหญ่บักเอ้ก แล้วปุ่มเปลี่ยนช่องอยู่ไหนไม่รู้ กดผิดนี่แย่เลย
จนกระทั่งพ่อยูซังมา แล้วบอกว่า "จะดูการ์ตูนป่ะ" ไอ้ตอนนั้นเราคิดว่า พ่อยูซังจะเปิดATTACK on TITAN ให้ เปล่าหรอก เปิดตู้มาหยิบลังหนังการ์ตูนมาให้เลือก ไอ้เราก็...เออ...ดูหนังไรดีวะ...แฮรี่ พอตเตอร์ เรอะ? ไม่อ่ะ สุดท้ายเลือกได้มาดากัสก้า3 
บอกพ่อยูซังว่า "ขอไปอาบน้ำก่อนนะ" อาบเสร็จก็มาดู โอ้ว สนุกสุดยอดเลยฮะ! 


ดูเสร็จปาไปเที่ยงคืน ทุกคนก็อยู่แต่ในห้อง ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าอยู่ทำไม น่าจะอยู่มากดดันเราว่า "เอ็งรีบๆดูเสร็จ กูจะไปนอน" ไอ้เราก็ ดูเสร็จก็เก็บของขึ้นไปนอน

เอาล่ะ จบไปอีก1วัน สำหรับHaLauYaMa in Japan 

เจอกันอีกวันที่3 คราวนี้เราไปโตเกียวล่ะนะ!!!

[2013/07/28] HaLauYaMa in Japan Day2 in Osaka!!!

Posted by : HaLauYaMa
Saturday, August 17, 2013

คำเตือนก่อนอ่าน บันทึกคราวนี้เป็นบันทึกที่ไปสถานที่ของญี่ปุ่นที่ใครๆส่วนใหญ่เขาไม่เคยไปกัน และอาจจะไม่รู้จักกัน ถึงจะไปส่วนที่คนเขาไปๆกันแต่็เดินไม่ทั่วถึง เปิดดูรูปผ่านๆไปเลยก็ได้ถ้าไม่อยากอ่านบันทึกการเดินทางครั้งนี้นะ เพราะมันก็ไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว

เอาล่ะ ก่อนที่จะเริ่มเรื่อง ก็จะต้องเริ่มเรื่องของเรื่องก่อน
สาเหตุที่ไปญี่ปุ่นครั้งนี้ก็คือ "พี่เจอโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินโคตรถูกโคตรพ่อโคตรแม่ 5พัน฿" 
ตอนแรกก็ไม่อยากจะไปหรอกเพราะว่าถ้าไปแล้วต้องไปตั้ง1อาทิตย์แล้วต้องขาดเรียนทั้งอาทิตย์ แต่ว่าพออีกซักพักก็เอ้อ! ไปก็ดีนะ โอกาสนี้พลาดไปไม่ได้เด็ดขาด ขาดเรียนแค่อาทิตย์เดียวเดี๋ยวตอนกลับมาก็มารีบปั่นงานก็ได้
บวกกับอีกสาเหตุนึงคือก่อนที่จะไปอีก4-5วันคือ ไม่อยากเจออาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษอ่านเขียน!!! #แม่ง!!!!!!

ก่อนเข้าเรื่องอีกอย่าง

ภาพที่ถ่ายทั้งหมด ไม่ได้ถ่ายเอาสวย แต่ถ่ายเฉพาะว่าชอบน่ะนะ ภาพบางภาพเอามาจากพี่และภาพเกือบทั้งหมดภาพถ่ายโดยกล้อง Canon sx500 IS (ภาพใหญ่สุดยอด!) (และอีกเศษนึงมากจากกล้องXperia S)

เข้าเรื่องเลยละกัน

พอเลิกเรียนเสร็จกลับบ้านไปเอากระเป๋าเปลี่ยนชุดไปสนามบินสุวรรณภูมิ ไปถึงนั่นประมาณสามทุ่มกว่าๆ เครื่องออก5ทุ่ม45 ยังเหลือเวลาอีกเยอะ ก็ไปจัดการเช็คอิน เปลี่ยนซิมมือถือ(ของพี่) แล้วก็ไปเจอเพื่อนของพี่ที่ทำงานอยู่Bangkok Airway อา~ ไอ้คุณพี่ก็เดินไปคุยไปกับเพื่อนสิคะ แล้วจากนั้นก็ไปรอFlightที่เลาจน์ของKing power แหม อาหารอร่อยจริงไรจริง ข้าวต้มไก่ แซนวิชแฮมชีส

เดินทางขาไปครั้งนี้เดินทางโดยสายการบินการบินไทยเที่ยวบินที่TG622 จากกรุงเทพไปโอซาก้า
(ในเครื่องมีแต่คนญี่ปุ่นเกือบทั้งลำ)


หลังจากนั้นพอขึ้นเครื่องบินของสายการบินไทย TG622 จากกรุงเทพไปโอซาก้า
ทันทีที่ขึ้นเครื่อง "หลับ!" ทันที! (เหตุเพราะกินนมอุ่นๆตอนอยู่ที่เลาจน์King power + เหนื่อยจากการเรียนวันศุกร์) ขนมอะไรมาเสิร์ฟก็ไม่กินทั้งนั้นล่ะ มาตื่นเอาอีกทีตอนประมาณตี5(ของประเทศญี่ปุ่น)ตอนที่เขาแจกอาหารกิน เรากินข้าวหน้าปลาไหลแหละ = w= ก็อร่อยใช้ได้

7โมงเช้าของประเทศญี่ปุ่น (หลังจากนี้ไปจะบอกเวลาของญี่ปุ่นทั้งหมดนะ) ก็มาถึงสถานบินคันไซที่ประเทศญี่ปุ่น ผ่านตม.เสร็จอะไรเสร็จก็ออกมา
ถึงแล้วคันไซ!



ออกจากเกทก็มารอเพื่อนของพี่คนหนึ่งชื่อว่า "ฟุรุทานิ ยูซูเกะ"
เขาเป็นสมาชิกของสมาคมสร้างคุณค่าหรือสมาคมโซคา หรือภาษาอังกฤษก็คือ Soka Gakkai เขาเคยมาประเทศไทยแล้วพี่ก็มาคุยด้วยในฐานะที่เป็นสมาชิกโซคาด้วยกัน เนื่องจากพวกเขาคุยกันถูกคอ เพราะว่าพี่เป็นล่ามประจำสมาคมโซคาอยู่แล้วซะส่วนใหญ่ ส่วนยูซูเกะนั้นก็ทำงานเป็นนักแปล (ได้ข่าวว่าแปลหนังด้วย) แล้วก็ทำงานเป็นอาจารย์ ก็มันเลยสิคราวนี้อังกฤษอังกฤษ
 พอเมื่อได้ยินว่าพวกเราจะมาญี่ปุ่น มาที่โอซาก้า เขาก็บอกว่าให้เรามาพักที่บ้านเขา ค่ากินไรแทบไม่ต้องใช้กันเลยเวลาอยู่ที่โอซาก้า (เกรงใจสุดๆเลยจ้า!)
อื้อ พอเขามารับเราที่สนามบิน ยูซูเกะเขาก็พาพี่ไปจัดการเรื่องตั๋วรถไฟชินกันเซนที่จะนั่งจากโอซาก้าไปโตเกียว ส่วนเราก็นั่งเฝ้ากระเป๋า ระหว่างรอไอ้เราล่ะเสือกทำหูฟังหาย! ลืมไว้ที่เครื่องบิน โคตรจะเสียใจ หูฟังที่ซื้อจากสิงคโปร์ใช้ไม่ถึงปี สละไปกับเครื่องบินซะแล้ว ; w;) (พี่บอกว่า "เออ เดี๋ยวไปซื้อที่โตเกียว็ได้" แง่ะ!)


(มาญี่ปุ่นนี่อยากมาร้านนี้ใจจะขาด)


หลังจากที่พี่และยูซูเกะกลับมาพวกเราก็ออกจากสนามบินไปที่รถของยูซูเกะที่จอดอยู่ ซึ่งแม่ของยูซูเกะก็มารออยู่ที่รถรับพวกเราด้วย ก็มาช่วยกันขนของแล้วก็ขึ้นรถไปที่บ้านของครอบครัวฟุรุทานิ ไอ้ตอนออกมาจากสนามบินนี่เสียงจั๊กจั่นร้องกันแบบสุดๆ! (เพราะว่าช่วงนี้เป็นฤดูร้อนของญี่ปุ่นแล้ว จั๊กจั่นเลยออกมาร้องกัน) แทบจะหาเสียงแบบนี้ในเมืองไทยไม่ได้เลยจริงๆ แต่ญี่ปุ่นนี่เดินไปไหนก้ได้ยิน สุดยอดดีแท้!

ขณะที่กำลังเดินทางอยู่ ก็มองสภาพแวดล้อมภายนอกของคันไซ หืม~ ดูอุดมสมบูรณ์จริงไรจริงๆนะ เขียวขจีเหมือนอยู่ต่างจังหวัดของประเทศไทย



แล้วไอ้ตอนระหว่างทางไอ้พี่ก็บอกกับยูซูเกะกับแม่ของเขาว่า "เออ มิลค์น่ะมันชอบAmami Yuki กับ AKB48" แม่ยูซัง(ของเรียกอย่างนี้ก็แล้วกันนะ)กับยูซูเกะก็คุยกัน (เท่าที่ฟังได้นิดนึงนะ) "Amami Yuki ที่เป็นดาราน่ะนะ?" ประมาณนี้ แล้วแม่ยูซังก็หันมาถามเราว่าชอบใครในAKB48 ไอ้เราก็ตอบไปเลยว่า "อัตจังกับโอชิมะ ยูโกะ" แม่ยูซังก็อ๋อ...แล้วก็เงียบ...เขาคงรู้จักแหละ อยู่ในโฆษณาทีวีออกจะบ่อย
หลังจากนั้นไอ้พี่ก็พูดอีกละบอกว่า "(ชี้มาที่เรา)อยากกินเมล่อนปัง" ซะงั้นน่ะ เออไอ้เราก็อยากกินแหละ จู่ๆเหมือนแม่ยูซังกับยูซูเกะจะพูดเรื่องร้านขนมปังที่ขายเมล่อนปังอร่อยๆ ไอ้เราล่ะนึกว่าแค่บอกชื่อร้านแล้วเดี๋ยวให้เราจัดการเอง ที่ไหนได้ พอขับรถไปอีกซักพัก มาจอดที่ไหนซักแห่ง...อ้าว ร้านขนมปังนี่!!! เข้ามาแม่ยูซังชี้ๆที่ไปขนมปังแล้วบอกว่า "เมล่อนปัง" อ้าว!!! เอาจริงดิ!!! เออ ไอ้เราก็ไม่รู้จะทำไงก็ให้เขาคีบๆไปนั่นล่ะ ไม่เอาก็เกรงใจเขาไหนๆก็มาแล้วแท้ๆ แถมเขาก็จ่ายให้อีก โอ้ว พระเจ้า เกรงใจจริงไรจริง ข้างร้านขนมปัง เยื้องๆไปนิดนึงเป็นร้านLAWSON เป็นร้านที่เราอยากเขาที่สุด แต่ก็ยังไม่ได้เข้าซักที (อยากจะเข้าแต่ก็เกรงใจเขาอยู่ดี)


(นั่นไงเมล่อนปัง!!!)



(ขนมปังอื่นๆร้านนี้ก็ดูน่ากินเหมือนกันนะ)



นี่แหละร้านที่เราคิดว่าอร่อยที่สุดที่เรากินมาตอนอยู่ที่ประทเศญี่ปุ่นน่ะนะ
อ้อ ผู้ชายที่ใส่แว่นนั่นคือ ยูซูเกะนะ ส่วนพี่เราใส่เสื้อสีขาว



ตรงข้ามก็เป็นLAWSONครับท่าน อยากเข้าไปชะมัดครับท่าน!!!

ในที่สุดก็ขับรถมาถึงบ้านฟุรุทานิ บ้านของฟุรุทานิเนี่ยอยู่ในโซนอิซูมิ ซึ่งจากบ้านไปยังสนามบินนี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชั่วโมงแน่ะ
เป็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นจริงๆ เห็นประตูข้างใน+เสื่อทาทามิแล้วแบบ นี่เราอยู่ในโดราเอม่อนหรือเปล่า? ฮ่าๆๆๆ


มีพัดลมยามะเซนด้วยนะเห้ย!!! 
(ใช้แล้วลมพัดเบาๆพอประมาณ แต่ไม่แรงเท่าฮาตาริบ้านเรานะ)

หลังจากนั้นก็กินขนมปังเมล่อน+อื่นๆที่ซื้อมาจากร้าน อื้อหือ!!! เมล่อนปังที่ร้านนั่นสุดยอดไปเลย ต่างจากที่กินที่ร้านSUNMOULINที่เซนเวิลด์สุดๆ ไม่มีความหวานของน้ำตาลเลยอะไรเลย โดยเฉพาะเมล่อนปังมีครีมแล้วด้วยเนี่ย ครีมมันเข้ากันกับเมล่อนปังกินแล้วไม่รู้สึกเลี่ยนเลยซักนิด! ถือว่าร้านนี้ทำขนมปังได้แจ่มมาก!!!

ขณะกินก็เห็นพี่คุยกับยูซูเกะว่าจะไปไหน ก็ได้ยินว่าจะไป "โรงเรียนมัธยมคันไซโซคา" กับ "สมาคมโซคาสาขาโอซาก้า" ไอ้ตอนนั้นเราล่ะก็ไม่ได้สนใจอะไร อ้อจะไปเหรอ อื้อไปก็ไป
หลังจากกินเสร็จอะไรเสร็จเตรียมตัวเสร็จก็เริ่มออกเดินทางไป "โรงเรียนมัธยมคันไซโซคา" ระหว่างทางก็เจอกับตึก "IKEDA AUDITORIUM" ของโรงเรียนคันไซโซคา ซึ่งคาดว่าตอนนี้เราอยู่หลังโรงเรียนแน่ะ


ตราโรงเรียนคันไซโซคาพร้อมชื่่ออาคารIKEDA AUDITORIUM

หลังจากนั้น รถก็มาจอดอยู่ที่ลานจอดรถร้านแห่งนึง ไอ้เราก็ "ห๊ะ? มาไมวะ?" ก็ไม่รู้ก็ลงๆไป เข้าห้องน้ำหน้าร้านแล้วก็เข้าไปในร้าน จากที่ยูซูเกะบอกมาว่ามันเป็นร้านเกี่ยวกับพวกยาหรือเสริมสวยอะไรพวกนี้แหละ(พวกครีมไรงี้ครีมล้างหน้าไรงั้นงี้) ไอ้เราก็ เข้าไปเผื่อจะได้เจอโฆษณาเจ๊ยูไม่ก็ของAKB48 ... ไม่มีเลย! แม้แต่โซนแกงกะหรี่ก้อนที่ยูโกะ+มายุ+มาริโกะเป็นพรีเซนบนกล่องก็ยังไม่มี...ร้านในคันไซทำไมถึงไม่มีเลยล่ะ! ; w;)
พวกเขาก็บอกให้เราเลือกน้ำมาจะกินไร ไอ้เราก็ ตอนแรกเห็นSTRONG ZERO ที่เจ๊ยูแกเป็นพรีเซนเตอร์...อยากลองกินมั่ง พอบอกจะกิน(พูดแบบกล้าๆกลัวๆ) ไอ้พี่ก็ "จะกินเป็นกระป๋องเหรอ?" ไอ้เราก็ เปลี่ยนไปเลือกกินชาซะงั้น หลังจากที่ซื้อชามาแล้วเรียบร้อย เปิดมากิน... "ขมชะมัด!" นี่เรอะชา!! ไอ้ตอนนั้นเราก็คิดว่า หลังจากนี้คงจะไม่กินเจ้านี่ไปอีกนาน แต่พอหลังๆมารู้เข้าว่า คนญี่ปุ่นเขากินชารสชาติแบบนี้กัน ขมๆนี่แหละ อืม ไอ้เราน่ะคนไทยดันกินแต่ชารสชาติหวานสังเคราะห์ขึ้นมาซะงั้น กินนี่เลยไม่ชิน

ไอ้ชานี่แหละที่เรากินแล้วขมมากเมื่อดื่มครั้งแรก แต่หลังๆก็เฉยๆละ เพราะกินชาที่นั่นบ่อยๆ

เดินมาได้เรื่อยๆ เอ้า เดินมาเรื่อยๆ บ้างก็เจอตัวจั๊กจั่นตัวเป็นๆ บ้างก็เจอนักเรียนรีบวิ่งไปสถานีรถไฟเพื่อไปโรงเรียนให้ทัน(จากที่เดา)(ตอนเดินมีมองหน้าด้วย #มองไมฟะไม่เคยเห็นเด็กแว่นแต่งตัวเห่ยๆเหรอวะ?) เดินไปเรื่อยๆ ชักไกลแล้วนะๆ และจากที่ได้ยินจากพี่หลังจากกลับจากโรงเรียนคันไซโซคาคือ "โรงเรียนนี้อยู่หลังเขาค่ะ"...แทบอยากจะกรีดร้องแต่ว่าก็ทนล่ะนะ #มิลค์จะไม่ทน อะไรทำนองนั้น





เดินไกลบัดซบอ่ะท่าน!!!!

ในที่สุด!!! ก็มาถึงซักที โรงเรียนมัธยมคันไซโซคา !!! ซึ่งวันนี้โรงเรียนจัดopen campus (หรือก็คือโอเพ่น เฮาส์ที่บ้านเราเรียกกันนั่นล่ะ)
เข้าไปแล้วสวยมาก!! (โรงเรียนเอกชนนี่นะ) มีนักเรียนมาบริการต่างๆเยอะแยะ


วันนี้เป็นวันopen campus(หรือก็คือโอเพ่น เฮษส์) คนเลยมาเยอะเป็นพิเศษ



แล้วห้องอาหารเขาก็ "ปัดเชดเข้!!! อลัง!!! โคมไฟใหญ่บักเอ้ก!!!" ติดแอร์ด้วยนะ!!! (ทีไอ้โรงเรียนเราพัดลมไอน้ำ แล้วไอ้ไอน้ำนี่ไม่รู้เอามาจากบ่อน้ำเน่าหน้าโรงอาหารหรือเปล่าก็ไม่รู้)



แล้วข้าววันนี้เขาก็ทำแกงกะหรี่ไก่ทอดมาให้ ถือว่านี่เป็นข้าวมื้อแรกที่ญี่ปุ่น (ไม่นับกินเมล่อนปังที่บ้านฟุรุทานินะ) อร่อยสุดยอดทีเดียว...แต่ไม่กินแตงกวานะ เป็นแท่งเลยจ่ะ ไม่เอาๆ (ไม่ชอบผักค่ะ)


อร่อยดีนะ แกงกะหรี่ไก่ทอด 

จากนั้นก็เดินสำรวจโรงเรียน มีโซนของฝากของที่ระลึกด้วย (ซึ่งมันอยู่ข้างๆโรงอาหารนี่ล่ะ) มีทั้งขนมหนังสือดินสอปากกา ไอ้พี่ก็ซื้อใหญ่เลยนะ  ตอนแรกจะจ่ายเอง แต่สุดท้ายแม่ยูซังก็จ่ายให้ ตามคำพูดที่ยูซูเกะบอกเลยว่า อยู่โอซาก้าแทบไม่ต้องจ่าย (อืม...)


แล้วก็เดินสำรวจโรงเรียน แต่ว่าเดินไปไม่ถึงไหนก็ต้องเดินออกมา เพราะว่าพวกเราไม่ได้ใส่รองเท้าแตะหรือรองเท้าลำลองใส่กัน ใส่รองเท้าเดินเที่ยวดื้อๆเข้าโรงเรียนนี่ล่ะ (เพราะว่าลืมล่ะนะ แต่ไอ้เดินเข้าตึกไปก็เห็นคนเปลี่ยนรองเท้ากัน ไอ้เราก็ เปลี่ยนทำเพื่อ? ก็พึ่งมารู้สาเหตุเอาก็ตอนกำลังเดินลงล่ะนะ)
ก็ออกมาที่ด้านหน้า แล้วก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ (โดยเฉพาะไอ้พี่ที่ถ่ายซะเยอะแยะเลย) แล้วก็เข้าพิพิธภัณฑ์ของโณงเรียนด้วย พวกประวัติของโรงเรียนอะไรอย่างนี้ 



ลายมือของอาจารย์อิเคดะ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนแล้วก็เป็นประธานสมาคมโซคาล่ะนะ


อ่านไม่ออกว่าเขียนว่าอะไร - -*






จู่ๆก็มีประกาศขึ้นมาว่า (จากที่ยูซูเกะแปลให้น่ะนะ) "รถทีมเบสบอลของโรงเรียนคันไซโซคากำลังจะถึงแล้ว เนื่องจากการแข่งขันเบสบอลที่โรงเรียนลงไปแข่งขันด้วย ผลออกมาว่าแพ้การแข่งขัน ยังไงพวกเราก็มาต้องรับพวกเขา แล้วก็หยิบธงจากพนักงานด้วยนะครับ" (มีเสริมของตัวเองด้วยนิดหน่อย) ก็คือ แบบว่าทีมเบสบอลโณงเรียนนี้แข่งแล้วแพ้ แล้วกำลังจะกลับโรงเรียน เขาก็เลยให้คนที่มาเนี่ยมายืนต้อนรับเพื่อแสดงความยินดีที่ว่า "เอ้อ ทำดีที่สุดแล้ว ขอบคุณมากสำหรับความเหนื่อย" อะไรทำนองนั้น
ธงที่โรงเรียนแจกมาก็เป็นธงสามสี(ประจำสมาคมโซคา)แล้วก็ตราโรงเรียนอยู่ตรงกลาง


นี่ล่ะธงที่เขาแจกมาให้




แล้วในที่สุด รถบัสที่มีนักเรียนที่เป็นนักเบสบอลของโรงเรียนก็มาถึง ทุกคนที่อยู่ในโณงเรียนก็โบกธ.กันใหญ่ พร้อมเสียงไมค์ที่บอกว่า ในที่สุดก็มาถึงแล้ว บลาๆๆๆ


และขณะที่ประตูเปิดนักเรียนก็กำลังลงมา ทุกคนต่างส่งเสียงว่า "ขอบคุณนะ" แล้วก็ปรบมือตลอดจนกว่านักเรียนจะลงและขนของกันหมด (แต่ว่าทำไมไอ้เราได้ยินว่า "ยินดีด้วยนะ (omedetou)" แทนคำว่า "ขอบคุณนะ (arigatou)" วะ...)



ปรบมือ+ตะโกนว่าขอบคุณกันใหญ่เลย

หลังจากขนของเสร็จไรเสร็จพวกเขาก็ยืนเรียงแถว แล้วก็ฟังคำปราศัย(?)จากอาจารย์ แล้วก็ให้ตัวแทนทีมออกมาพูดอะไรนิดหน่อย (น่าจะพูดประมาณว่า ทำดีที่สุดแล้ว ขอบคุณสำหรับกำลังใจ อะไรก็ว่าไป) แล้วจากนั้นอาจารย์อีกคนก็มาพูดต่อแล้วก็ให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่บันไซให้กับทีมเบสบอล (บันไซมันสลัดไก่มากค่ะ 5555+)


หลังจากเสร็จอะไรเสร็จก็คืนธง (เขาไม่ได้แจกธงฟรีนะ ถ้าจะเอาก็ไปซื้อที่โซนของฝาก - -*) แล้วก็กลับ(ลงเขา)ไปที่รถที่จอดอยู่หน้าร้านขายของเสริมสวยไรนั่นอย่างที่ว่า



ป้ายopen campus หน้าโรงเรียนคันไซโซคา


บอกแล้วว่าที่นี่มันเขียวขวีสุดๆ!!! ลมพัดทีไปทั้งดุ้น 5555+


ร้านนี้แหละที่เอารถมาจอด


ด้านหน้ามีโปสเตอร์พวกโฆษณาครีมไรงี้ด้วย มีคันโนะ มิโฮะด้วยค่า!! สวยเว่อร์ๆ


ส่วนป้ายตรงเสานี่ก็ของชินโง โฆษณาแผ่นป้ายบรรเทาปวดนี่ล่ะ (คล้ายๆตราเสือบ้านเรา)

สถานที่สองที่จะไปต่อวันนี้ก็คือ "สมาคมโซคา สาขาโอซาก้า" ซึ่งในที่แห่งนั้นมี โงะฮนซนสีทองซึ้งพื้นส่วนใหญ่เป็นสีดำส่วนตัวอักษรสีทองซึ่งเป็นโงะฮนซนองค์เดียวในโลกที่เป็นสีทองล่ะนะ
ก็เดินทางไปเรื่อยๆ ก็มาถึง



แต่รู้ว่ายามบอกว่าวันนี้ปิด ไม่ให้เข้า อา ก็บอกว่าให้ไปเข้าที่นึงสิ อยู่แถวๆนี้ล่ะ 
(ที่จริงไอ้เราก็ไม่รู้ว่าสมาคมโซคาตรงนี้มันเกี่ยวกับอะไร แต่รู้ว่าตรงนั้นมันมีสองแห่งล่ะนะ) ก็เดินไปแถวๆนี้ล่ะ แถวนั้นก็มีร้านขายของที่เกี่ยวข้องกับสมาคมด้วยล่ะ แบบว่าสมาชิกเขาเปิดกันน่ะ





จากนั้นก็มาถึงอีกที่ ที่ๆมีโงะฮนซนสีทองอยู่ เข้าไปเขาก็เตรียมจัดคนแนะนำสถานที่ พวกเขารีบไปเปิดห้องเปิดแอร์อะไรไว้พร้อม ถือว่าดีมากๆ ภาพในสมาคมนี้ก็ทำด้วยกำมะหยีอีกต่างหาก แล้วก็มีชั้นที่รวบรวมผลงานต่างๆของอาจารย์อิเคดะไว้ด้วย รวมถึงรางวัลของประเทศไทยเราก็มี แล้วก็โงะฮนซนสีทองที่มีองค์เดียวในโลก สวยงามมากจริงๆนะ พี่บอกว่า ที่เป็นองค์สีทองก็เพราะชัยชนะของชาวคันไซ (น่าจะเป็นชัยชนะตอนที่ยุวชนชาย-หญิงรวมตัวกัน1หมื่นคนมาที่ศาลากลางนั่นล่ะ)
เขาอนุญาตให้เราถ่ายรูปได้แค่ชั้นล่าง ก็เลยถ่ายไว้




ภาพนี้คือภาพวาดตอนที่ยุวชนชาย-หญิงหนึ่งหมื่นคนรวมตัวกันที่หน้าศาลากลาง เรียกร้องให้ปล่อยตัวอาจารย์อิเคดะออกจากคุก และชื่อของพวกเขา(ยุวชนชาย-หญิง)ก็ได้สลักไว้บนแผ่นหินนั่นไว้ตลอดไป (ตามที่ยูซูเกะบอกน่ะนะ)




ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซักภาพ...


นี่คือด้านหน้าสมาคมล่ะ

เอาล่ะ เมื่อวันนี้ไปตามที่อยาก(พี่)ไปแล้วเราก็กลับบ้านฟุรุทานิกัน หลังจากที่นั่งพักอะไรกันนิดหน่อยที่บ้านฟุรุทานิ ก็ออกจากบ้านกันอีกแล้ว! แต่ว่าคราวนี้ไปกินข้าว ไปกินซูชิที่ร้านซูิที่ชื่อว่า ซูชิโรล หรือก็คือร้านซูชิหมุน...ชื่อร้านแม่งโคตรตรงตัวเลยเมิง...



ถือว่าอร่อยดี แต่ก็กินไม่เยอะเพราะว่าเกรงใจเขา (แต่ก็กินไปหลายชิ้นเหมือนกัน)


มีจอให้สั่งด้วยนะ พอสั่งแล้วก็จะมีเสียงบอกว่าอาหารมาแล้วมาเอาสิคะ 

ระหว่างกินนั้นพ่อของยูซูเกะก็มา (หลังจากนี้ของเรียกว่าพ่อยูซังละกันนะ) ส่วนใหญ่ก็กินแต่ปลามากุโร่แล้วก็อะไรอีกอันนึง ฮามาจิ? (ไม่ใช่ละ) จำไม่ได้ กินเสร็จก็ออกไปก่อนแล้วก็เอายายของยูซูเกะกลับไปด้วย(หลังจากนี้ของเรียกว่ายายยูซังละกันนะ) ตอนจ่ายตังค์พนักงานเขาจะวัดระดับจานก่อนว่าเอ็งกินไปกี่จาน (แบบจานซ้อนๆกันงี้ก็วัดเลย กี่จาน จ่ายมานะ!) แล้วก็จ่ายซะ พอจ่ายเสร็จก็ออกไป ข้างหน้าร้านก็มีที่ล้างมือแล้วก็เครื่องเป่ามือด้วย 
แล้วขณะอยู่บ้านฟุรุทานิก็จัดการอาบน้ำเปลี่ยนชุด แล้วก็นั่งดูทีวี ไอ้ขณะนั่งดูทีวีก็เจอโฆษณาตัวนึง ก็คือ STRONG DRY (STRONG ZEROตัวใหม่นั่นล่ะ) ไอ้เราก็ เห้ย! ถ่ายสิวะ!!! ใช้Xperia Sถ่าย...ไม่ทันซะงั้น กล้องมันถ่ายช้าเลยได้ฉากไอ้แว่นโดนน้ำสาด LOL


ใครอยากดูCMนี้คลิกตรงนี้เลย ฮาเหมือนกันนะ
แล้งจากนั้นจู่ๆพ่อยูซังก็เปิดหนังให้ดู เรื่อง Wreck it Ralph เรื่องที่AKBร้องเพลงประกอบให้ด้วย ถือว่าสนุกเหมือนกันนะเรื่องนี้ เยี่ยมมาก
หลังจากนั้นก็ขึ้นห้องนอน ซึ่งมันก็ดึกแล้วแหละเที่ยงคืน (ที่ไทยแค่4ทุ่มเอง) อยากอยู่ต่อแต่ว่าก็เกรงใจพวกเขาน่ะนะ ก็ขึ้นไป แม่ยูซังก็เตรียมที่นอนให้ด้วย โอ้โห นี่เหรอที่นอนญี่ปุ่น!!


ที่จริงแล้วเขาก็มีแอร์นะ แต่ว่าก็นอนด้วยพัดลมนี่ล่ะ เพราะใช้พัดลมก็นอนได้ (ประหยัดไงเอาง่ายๆ) 
แล้วก็นอน ราตรีสวสัดิ์ ลั้ลลาเลยล่ะ

ไว้เจอกันวันที่2

---------------

edit - ตอนกำลังกลับบ้านฟุรุทานิ (ก่อนจะกินซูชิน่ะ) ระหว่างทางเจอโฆษณาAKB ปาจิงโกะแต่ไกล ด้วยความสามารถของกล้อง จะโฟกัสได้ชัดเชียวล่ะ ถือว่าภาพนี้เป็นภาพแรกที่ได้เห็นโฆษณาAKBในญี่ปุ่นน่ะนะ (ที่จริงเห็นที่ตู้กดน้ำตอนขึ้นไปรงเรียนคันไซโซคาแต่ว่าไม่ได้ถ่ายเพราะอยู่ไกลและเหนื่อยขี้เกียจแล้ว)


นี่ถ่ายจากในรถนะเนี่ย ซูมไปเกือบสุด เห็นชัดเว่อร์ค่ะ!

ขับรถไปอีกซักพักเจอป้ายแบบแนวตั้ง โฆษณา DVD AKB TOKYO DOME แน่ะ โอ้!!!


มันกลับด้านแฮะ ลมแรงซะงั้น


กะจังหวะอีกรอบ!! นั่นไงได้ละ ด้วยสกิลของกล้อง ซูมจากในรถ ถือว่าเยี่ยมทีเดียวล่ะ!!!!


[2013/07/27] HaLauYaMa in Japan Day 1

Posted by : HaLauYaMa
Sunday, August 4, 2013

- Copyright © 2013 HaLauYaMa - Shiroi - Powered by Blogger - Designed by Johanes Djogan -